ทำไมต้องเป็นข้าวอินทรีย์
ข้าวอินทรีย์ดีอย่างไร และทำไมชาวนาไทยยังปลูกน้อย
ข้าวอินทรีย์ คือ ข้าวบริสุทธิ์ เพราะในทุกขั้นตอนการปลูก ปราศจากสารเคมีใดๆ ไม่ว่าจะเป็น ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี ฮอร์โมน หรือแม้แต่เมล็ดพันธ์ GMO
ข้าวอินทรีย์ เต็มไปด้วยสารอาหารดีๆ ที่ร่างกายต้องการครบถ้วน และไม่มีสารอันตรายเจือปน ที่จะบั่นทอนสุขภาพ หรือสะสมทำให้เกิดโรคร้าย ข้าวอินทรีย์ จึงถือเป็น “ยา” ที่ช่วยรักษาสุขภาพ ที่เหมาะกับคนไทยทุกวัย
ข้าวอินทรีย์ มาจากนาอินทรีย์ อันเป็นวิถีเกษตรกรรมบริสุทธิ์ ที่ชาวนาให้ความเคารพรักและให้เกียรติผืนดิน ผืนน้ำ อากาศ สิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่และธรรมชาติโดยรอบ ชาวนาผู้ทำนาอินทรีย์ จึงทำหน้าที่ดูแลผืนดินผืนน้ำและสิ่งแวดล้อมของชาติให้มีความบริสุทธิ์ อุดมสมบูรณ์ อย่างยั่งยืน
ที่สำคัญ เมื่อชาวนาเลิกใช้เคมี สุขภาพของเขาจะดีขึ้น ไม่เจ็บป่วยจากการสัมผัสหรือสูดดมสารเคมี และต้นทุนในการทำนาจะลดลงเกินครึ่ง ทำให้อาชีพชาวนาไม่ขัดสน มีเงินเก็บ พออยู่พอกิน พึ่งพาตัวเองได้ ชุมชมเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
แต่…
ชาวนาไทยจำนวนมาก ยังหลงและติดอยู่ใน “กับดักเคมี”
มีความเชื่อว่า เคมีสามารถจัดการทุกอย่างได้ดั่งใจ (แต่มันทำให้เราติดและยิ่งต้องใช้มากขึ้น)
มีความเชื่อว่า ต้องมุ่งผลิตเน้นเอาปริมาณ โดยลืมนึกถึงต้นทุน ความสูญเสียต่อธรรมชาติและสุขภาพ
มีความเชื่อ ตามโฆษณาชวนเชื่อ และการส่งเสริมการขายจากบริษัทเคมี
และแม้ว่า จะมีชาวนาจำนวนหนึ่ง ต้องการหลุดจากกับดักเคมี ก็ยังมีอาการ “ใจสั่น” กับการเดินสู่เส้นทางอินทรีย์ เพราะ
• กว่าจะได้ใบรับรองอินทรีย์ ต้องใช้เวลาปรับเปลี่ยนอย่างน้อย 3 ปี
• ในระยะ 3 ปีนี้ ผลผลิตจะตกและไม่งามเหมือนตอนใช้เคมี ประมาณ 30%
• ในระยะ 3 ปีนี้ ต้องขายข้าวให้โรงสี เสมือนเป็นข้าวเคมี
• ไม่มีใครยอมรับ และยังต้องทนกับความกดดันจากเพื่อนชาวนารอบข้างที่เชื่อในเคมี
หากในระยะ 3 ปีนี้ เพียงแค่มีคนกินข้าว ที่พร้อมจะซื้อข้าวจากเขา ไม่ว่าหน้าตาของผลผลิตจะไม่งดงามเหมือนข้าวเคมี และซื้อในราคาที่เขากำหนดเองได้ นั่นก็คือ กำลังใจอันยิ่งใหญ่ ที่จะเคียงข้างเขาให้เดินอย่างมั่นคงบนเส้นทางอินทรีย์แล้ว
รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ใน อัลบั้มนี้ค่ะ
+ There are no comments
Add yours